ข้อ 1) นายจ้างตกลงว่าจ้างให้ลูกจ้างทำงาน ณ ของ “นายจ้าง” ในตำแหน่ง ฝ่าย โดยให้ลูกจ้างเริ่มงานตั้งแต่วันที่ เดือน ปี พ.ศ. เป็นต้นไป ในอัตราค่าจ้างเดือนละ บาท ()

โดยมีระยะเวลาการทดลองงาน วัน หากผลการทำงานไม่เป็นที่พอใจ นายจ้างอาจเลิกจ้าง หรือขยายระยะเวลาการทดลองงานคราวละไม่เกิน 90 วันได้

ข้อ 2) กำหนดวันและเวลาทำงาน:

ข้อ 4) ลูกจ้างรับว่า หากลูกจ้างผิดสัญญาฉบับนี้ ลูกจ้างยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายจ้างเป็นเงินจำนวน บาท () โดยปราศจากเงื่อนไข

ข้อ 5) ลูกจ้างรับว่าจะไม่ไปปฏิบัติงานกับบริษัท และ/หรือ นิติบุคคลฯ ที่เป็นคู่ค้า หรือประกอบธุรกิจลักษณะเดียวกับนายจ้าง ภายในระยะเวลา ปี นับแต่วันที่สิ้นสุดสัญญาจ้างตามข้อ 2

ข้อ 9) หากมีการถอนการบริหาร/โยกย้ายหน่วยงาน ลูกจ้างยินยอมปฏิบัติหน้าที่ ณ หน่วยงานที่นายจ้างจัดหาให้ และรับเงื่อนไขรวมถึงค่าจ้างใหม่ หากยังจัดหาไม่ได้ ลูกจ้างยินยอมรับค่าจ้างในอัตรา 50% ของค่าจ้างเดิม และประจำการที่สำนักงานใหญ่จนกว่าจะจัดหาได้

ข้อ 11) ลูกจ้างจะไม่เรียกร้องค่าชดเชยในกรณีเลิกจ้างเนื่องจาก (1) ทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดอาญาโดยเจตนา (2) จงใจให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง (3) ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง (4) ฝ่าฝืนระเบียบหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้ตักเตือนเป็นหนังสือ (กรณีร้ายแรงอาจไม่ต้องตักเตือน) โดยหนังสือตักเตือนมีผล 1 ปี (5) ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุสมควร (6) ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษาถึงที่สุด เว้นแต่เป็นความผิดโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

ข้อ 18) ลูกจ้างต้องจัดทำหนังสือค้ำประกันเพื่อประกันความประพฤติหรือความเสียหาย โดยการนำทรัพย์มาวางเป็นประกัน หรือนำบุคคลมาค้ำประกัน ตามที่นายจ้างเห็นสมควร นับตั้งแต่วันเริ่มงานและสิ้นสุดเมื่อพ้นสภาพลูกจ้างและไม่ปรากฏความเสียหาย

ข้อ 20) คู่สัญญาตกลงให้ลูกจ้างชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทเป็นจำนวนเงิน เท่าของอัตราเงินเดือนที่ได้ตกลงกัน หากฝ่าฝืนเอกสารประกอบการสมัครงาน/หนังสือแนบท้ายสัญญา